
รีวิวฉบับที่ 2845 ..วันนี้เราพาทุกคนมามองหาที่ดินสวยๆ ไว้ปลูกบ้านพักตากอากาศที่เขาใหญ่กันครับ กับโครงการ DALTON (ดรธาร) ซึ่งความพิเศษของที่นี่คือ บ้านทุกหลังจะอยู่ติดริมน้ำทั้งหมดเลย เพราะเขามีการขุดทะเลสาบขนาดใหญ่กว่า 8.5 ไร่ขึ้นมา แถมยังได้วิวของเขาใหญ่สวยๆอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสวนส่วนกลางที่น่าสนใจ และด้านหลังสุดยังมี Hidden Garden ริมลำน้ำลำตะคองอีกด้วย ซึ่งเราคิดว่าคงหาโครงการลักษณะแบบนี้ในเขาใหญ่ไม่ได้ง่ายๆแน่นอน ส่วนจุดเด่นหรือ Highlights ที่น่าสนใจของโครงการเราได้รวบรวมมาให้แล้วดังนี้เลย
- เป็นโครงการขายที่ดินจัดสรร สามารถซื้อมาเพื่อปลูกบ้าน/ออกแบบบ้านที่ชอบเองได้ พร้อมสาธารณูปโภคที่ครบครัน
- บ้านทุกหลังอยู่ติดริมน้ำในโครงการ ทำให้เกิดบ้าน 3 โซน 3 สไตล์ไม่เหมือนกัน
- ส่วนกลางเน้นความเป็นธรรมชาติ เช่น สวน และพันธุ์ไม้ต่างๆ อีกทั้งยังมีที่ดินติดลำน้ำลำตะคองที่เป็นธารน้ำสาธารณะด้วย
ข้อมูลโครงการ
DALTON (ดรธาร) ณ วันที่ 14 มีนาคม 2568
ชื่อโครงการ | DALTON (ดรธาร) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท รินน์ พร็อพเพอร์ตี จำกัด |
SEGMENT CLASS | UPPER – LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนน บ้านผาสุก ซอย 4 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา |
ที่ดิน | 54-2-89 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 28 แปลง |
ประเภทแปลงที่ดิน |
|
เว็บไซต์โครงการ | https://pg.thinkofliving.pwv.one/DALTONKHAOYAI |
โทร | 083-442-8795 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 14.620773083687531, 101.46324277741653
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
..ถ้าพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่สามารถขับรถมาเที่ยวพักผ่อนได้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ‘เขาใหญ่’ ถือเป็นสถานที่อันดับต้นๆ ที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงเลยครับ เพราะขับรถมาได้สะดวก และใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น
โดยที่นี่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีคาเฟ่สวยๆบรรยากาศดีๆให้มาถ่ายรูปเช็คอิน รวมถึงยังมีโรงแรมรีสอร์ตมากมายด้วย แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้หลงเสน่ห์ของธรรมชาติที่แห่งนี้ และอยากปลูกบ้านเป็นของตัวเองไว้สักหลัง เพื่อที่จะได้สามารถมาเที่ยวพักผ่อนเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ
โครงการ DALTON ตั้งอยู่ในโซน ‘ขนงพระ’ ซึ่งสามารถเข้า-ออกได้หลักๆ 2 ทางคือ จากถนนธนรัชต์ กม.3 ตรงทางลงมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ปากช่อง และจากถนนหมายเลข 2235 ที่สามารถเดินทางไปปากช่องได้สะดวกไม่แพ้กัน
โดยความพิเศษของทำเลโซนนี้จะมีความเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนและอยู่อาศัย มากกว่าบริเวณตรงเส้นกุดคล้า-ธนรัชต์ ที่ตอนนี้นับว่ากลายเป็นโซนของแหล่งท่องเที่ยวที่มีความคึกคักสูงเต็มตัวไปแล้ว
รวมถึงทำเลที่ตั้งของโครงการยังคงมีกลิ่นอายของความอุดมสมบูรณ์ และให้บรรยากาศของย่านเขาใหญ่ดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังอยู่ในระยะที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์จากเขาใหญ่ได้สวยงามด้วยนะครับ ซึ่งโครงการจัดสรรระดับ Luxury ที่เรารู้จักกันส่วนใหญ่ก็จะตั้งอยู่ในโซนนี้กันเกือบทั้งหมดเลย
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริบทรอบๆโครงการ แน่นอนว่าเป็นพื้นที่ว่างเป็นส่วนใหญ่ครับ รวมถึงก็จะมีบ้านพักอาศัยของคนพื้นที่อยู่บ้าง ดังนั้นทำเลนี้จึงมีความเงียบสงบค่อนข้างสูง แต่จุดที่น่าสนใจจริงๆก็คือ บริเวณท้ายโครงการจะมีพื้นที่ส่วนหนึ่งอยู่ติดกับลำน้ำลำตะคองด้วย หมายความว่าเราสามารถเดินไปชมบรรยากาศของลำน้ำสาธารณะได้เลยนั่นเอง ซึ่งหาทำเลที่ดินที่เป็นลักษณะแบบนี้ได้ยากมากๆในย่านเขาใหญ่แบบนี้ครับ
- ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินส่วนบุคคล (เจ้าของเดียวกับโครงการ)
- ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินส่วนบุคคล
- ทิศใต้ ติดกับ ลำน้ำลำตะคอง
- ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินส่วนบุคคล
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- โบนันซ่า เขาใหญ่ ~ 6.5 กม.
- แม็คโคร ~ 9 กม.
- โลตัส ~ 11.8 กม.
- พรีเมี่ยมเอาท์เล็ทเขาใหญ่ ~ 11.8 กม.
- ฟาร์มโชคชัย ~ 20.2 กม.
โรงพยาบาล
- รพ.กรุงเทพเขาใหญ่ (อยู่ระหว่างก่อสร้าง) ~ 10 กม.
- รพ.กรุงเทพปากช่อง ~ 15.9 กม.
- รพ.ปากช่องนานา ~ 17.3 กม.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- จัดผังโครงการได้ดี บ้านทุกหลังอยู่ติดน้ำ และได้บรรยากาศ 3 โซนไม่เหมือนกัน
- เป็นโครงการจัดสรรที่เน้นขายแปลงที่ดินที่มีความยืดหยุ่น ซึ่งเราสามารถสร้างบ้าน/ออกแบบบ้านได้ด้วยตัวเอง หรือจะใช้แบบบ้านและทีมช่างจากโครงการก็มีบริการพร้อม
- ส่วนกลางมีขนาดใหญ่และสวยงาม โดยเฉพาะทะเลสาบ ธารน้ำ และสวนป่าที่อยู่ติดลำน้ำลำตะคองท้ายโครงการ เรียกได้ว่ามีความพิเศษและแทบจะหาที่ไหนในเขาใหญ่ไม่ได้แล้ว
DALTON เป็นโครงการจัดสรรที่ดินพร้อมสาธารณูปโภค หรือพูดง่ายๆก็คือ เป็นโครงการที่จะขายเป็นแปลงที่ดิน เพื่อให้เราสามารถนำมาสร้างบ้านด้วยตัวเองในแบบที่ต้องการได้นั่นเอง ในคอนเซ็ปต์ Sustainable Luxury ซึ่งต้องการสร้างคอมมูนิตี้ระดับ High-End ท่ามกลางธรรมชาติที่ปลอดภัยและยั่งยืน
ไม่ว่าจะเป็นการใช้พันธุ์ไม้ท้องถิ่นที่สามารถเติบโตในพื้นที่ได้ดี และดูแลตัวเองได้ในระยะยาว รวมถึงยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติและสภาพแวดล้อมโดยรอบไว้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังมีการนำบริบทที่เป็นเสน่ห์ของทำเลมาใช้ในการออกแบบด้วย เรียกได้ว่าหาโครงการแบบนี้ในเขาใหญ่ได้ยากมากๆครับ
..สำหรับที่มาที่ไปของโครงการนี้ เดิมทีแปลงที่ดินผืนนี้เคยเป็นสวนปลูกกล้วยไม้มาก่อนครับ ซึ่งทางเจ้าของโครงการได้เล็งเห็นถึงศักยภาพและ Value ที่อยากส่งต่อให้กับคนที่ชื่นชอบหรืออยากมีบ้านตากอากาศที่เขาใหญ่นั่นเอง แต่จะมีอะไรน่าสนใจบ้างเราไปเจาะลึกพร้อมๆกันเลยครับ
DALTON – ดรธาร มาจากคำภาษาอังกฤษเก่าแก่ หมายถึง Valley by the river ซึ่งสะท้อนที่ตั้งและลักษณะของโครงการ ที่ดินทุกแปลงในโครงการตั้งอยู่บนเนินที่ลดหลั่น สามารถมองเห็นวิวเขาใหญ่ที่โอบล้อม 180 องศา อีกทั้งที่ดินทุกแปลงจะอยู่ติดกับน้ำ ซึ่งเป็นผืนน้ำของทะเลสาบ 2 จุดที่เชื่อมต่อกันด้วยลำธารและน้ำตกทั้งโครงการ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่อย่าง ‘ลำน้ำลำตะคอง’ นั่นเองครับ
นอกจากนี้ยังทำให้เกิดโซนของบ้านพักอาศัย 3 โซน ที่มีความแตกต่างกันถึง 3 สไตล์ คือ The Lake (โซนริมทะเลสาบ), The Waterfall (โซนน้ำตก) และ The Creek (โซนลำธาร) โดยจะมีความน่าสนใจแตกต่างกันแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปชมและอธิบายแบบละเอียดอีกทีครับ
ส่วนพื้นที่ส่วนกลางจะแบ่งออกเป็น 3 จุดใหญ่ๆ คือ สวนและสะพานที่อยู่ริมทะเลสาบด้านหน้าสุด เป็นสวนที่เหมาะจะมาเดินเล่นชมวิวครับ / Edible Garden เป็นสวนที่อยู่บริเวณตรงกลางโครงการ เหมาะจะมาศึกษาดูพืชผลท้องถิ่นของจริง หรือจะเก็บไปบริโภคก็ได้ / ทะเลสาบที่ 2 และ Lam Takhong Garden ที่อยู่ท้ายสุดของโครงการ ถือว่าเป็น Hidden Facilities ที่ช่วยสร้าง Value ไม่เหมือนใคร และเชื่อว่าทุกคนจะต้องเซอร์ไพร้อย่างแน่นอนครับ
อีกหนึ่งความใส่ใจของโครงการที่เข้าใจลูกบ้านก็คือ ‘บริการเสริมต่างๆ’ ไม่ว่าจะเป็นคนดูแลสวน แม่บ้านทำความสะอาด และอื่นๆ เพราะลูกบ้านส่วนใหญ่มักจะซื้อไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ หรือบ้านหลังที่ 2 ซึ่งอาจไม่ได้อยู่เป็นประจำ
ดังนั้นจึงต้องมีคนช่วยดูแลและทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้บ้านมีความสวยงามน่าอยู่ และพร้อมสำหรับการมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ได้ทันทีนั่นเองครับ
โดยทางโครงการ DALTON จะมีคอนแทคแนะนำและช่วยดูแลประสานงานต่างๆให้ด้วย แต่ค่าใช้จ่ายต่างๆลูกบ้านที่ต้องการรับบริการจะต้องจ่ายเพิ่มเองตามปกติ ไม่ได้รวมอยู่ในค่าส่วนกลางนะครับ
บริเวณด้านหน้าซุ้มประตูทางเข้าโครงการครับ เป็นภาพที่เราถ่ายช่วงเย็นก่อนกลับพอดี และเห็นว่าสวยดีก็เลยนำมาฝากกันด้วย โดยการเข้า-ออกจะใช้เป็นระบบ Easy Pass ด้วยสัญญาณ Bluetooth เหมือนทางด่วนเลย พร้อมทั้งมี รปภ. ดูแลตลอด 24 ชม.
เมื่อเข้ามาภายในโครงการเราจะเจอกับทะเลสาบขนาดใหญ่กว่า 8.5 ไร่ เรียกได้ว่ามีวิวที่สวยงามเป็นธรรมชาติมากๆ ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้ทางโครงการขุดทำขึ้นมาใหม่เอง โดยใช้สถิติการคำนวณย้อนหลัง 20 ปี เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งปีแม้จะเป็นช่วงเวลาที่แห้งแล้งที่สุดครับ
ปัจจุบันทางด้านขวามือก่อนขึ้นสะพานจะเป็นที่ตั้งของสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตก็จะกลายเป็นสำนักงานนิติบุคคลไว้ติดต่อธุระต่างๆ รวมถึงจะมีสวนขนาดใหญ่ริมทะเลสาบให้เรามาเดินเล่นชมวิวกันได้อีกด้วย ก่อนที่จะมีสะพานให้ข้ามไปยังโซนบ้านพักอาศัยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามครับ
สวนแห่งนี้จะเรียกได้ว่าเป็น Main Garden ของโครงการเลยก็ว่าได้ครับ เพราะมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสวนทั้งหมดคือ 3.5 ไร่ และเป็นสวนเดียวที่อยู่ติดทะเลสาบหลักของโครงการแบบนี้ด้วย
ภายในสวนมีการออกแบบทางเดินเป็น Infinity Walkway เพื่อให้เราสามารถเปลี่ยนบรรยากาศการเดินได้ ไม่ว่าจะเป็นทางเดินบนหินกรวดที่ช่วยนวดฝ่าเท้าได้ หรือสามารถเดินไปบนพื้นหญ้าเพื่อให้สัมผัสกับความนุ่มก็ได้
อีกทั้งยังมี Sunken Bridge เป็นสะพานที่ลดระดับลงไปในทะเลสาบ เพื่อให้เราได้เดินลงไปสัมผัสกับน้ำได้อย่างใกล้ชิด แบบว่าสามารถเอื้อมมือลงไปจุ่มกับผิวน้ำได้เลยครับ โดยฟังก์ชันนี้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากสะพาน Moses Bridge ที่ประเทศเนเธอแลนด์นั่นเอง
แต่หากเราสังเกตดีๆจะเห็นว่า พื้นทางเดินแต่ละจุดเขาจะไม่มี Step เลยครับ หมายความว่าเราสามารถใช้รถเข็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถเข็นเด็กหรือรถวีลแชร์ก็เข้ามาใช้งานได้ เรียกได้ว่าเป็นการออกแบบด้วยหลัก Universal Design ที่สามารถใช้งานได้ทุกวัยเลยครับ
อีกหนึ่งจุดที่เราสามารถเดินเชื่อมต่อลงไปได้ก็คือ พื้นที่บริเวณริมทะเลสาบ ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่จะทำให้เราได้ใกล้ชิดกับผืนน้ำมากขึ้น สามารถมานั่งเล่นพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือจะนำเรือมาพายเล่นก็ได้ (อนาคตทางโครงการจะมีเตรียมไว้ให้) รวมถึงยังมี Highlight เป็นไม้ดอกสีสันสดใสต่างๆด้วย เช่น ดอกแพนซี่, ดอกเล็ก, ดอกไวโอล่า เป็นต้น
..และต่อจากนี้เราจะเริ่มเข้าสู่โซนของแปลงที่ดินที่อยู่อาศัยกันแล้วนะครับ จะเป็นอย่างไรบ้างเราตามไปชมกันเลย
1. The Lake Zone (แปลงที่ดินโซนทะเลสาบ)
สำหรับโซนแรกนี้จะเหมาะกับคนที่มีสไตล์ต้องการบ้านอยู่ติดทะเลสาบผืนใหญ่ มองออกไปเห็นผืนน้ำได้ไกลสุดลูกหูลูกตา รวมถึงยังเหมาะกับคนที่ต้องการมองเห็นวิวทิวเขาของเขาใหญ่ด้วยครับ
อย่างที่เราเกริ่นเอาไว้ในตอนแรกแล้วว่า แปลงที่ดินของโครงการจะตั้งอยู่บนเนินที่มีความสูงลดหลั่นกันตามลำดับ ซึ่งโซนแรกนี้จะอยู่ในจุดที่เป็นเนินสูงที่สุดของโครงการ (ความสูงต่างจากจุดที่ต่ำสุดประมาณ 12 m.) เลยทำให้สามารถมองเห็นวิวระยะไกลได้ดีแบบนี้นั่นเอง
และถึงแม้ว่าจะเป็นบ้านที่อยู่ในโซนทะเลสาบเหมือนกัน แต่วิวที่ได้ในแต่ละแปลงจะมีความแตกต่างกันไปครับ อย่างภาพนี้จะเป็นแปลงที่อยู่ติดกับสะพาน เราก็จะได้มุมองศาของภูเขาที่มีระยะใกล้มากขึ้นกว่าแปลงแรกอยู่นิดหน่อย ทั้งนี้เราแนะนำให้ไปเดินชมของจริงด้วยตัวเองจะดีที่สุดครับ เพราะแต่ละคนก็มีความชอบที่ไม่เหมือนกัน
อีกหนึ่งความพิเศษของบ้านโซนริมทะเลสาบก็คือ เราสามารถมองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้ได้ด้วยครับ ซึ่งหากเป็นโซนอื่นจะถูกความสูงของต้นไม้รอบๆบดบัง ไม่ได้เห็นวิวเปิดโล่งแบบนี้นะ
ส่วนแปลงนี้จะเป็นแปลงที่อยู่ตรงกลางพอดี ทำให้สามารถมองเห็นวิวได้มากกว่า 180 องศาเลยทีเดียว และถ้าใครกำลังสงสัยว่าเราสามารถทำท่าน้ำเล็กๆส่วนตัวยื่นออกไปในทะเลสาบได้มั้ย คำตอบคือ ‘ไม่ได้’ นะครับ เพราะทะเลสาบถือเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้งานร่วมกัน ซึ่งที่ดินส่วนบุคคลจะสิ้นสุดแค่ตรงบริเวณริมน้ำเท่านั้นนะ
และนี่ก็คือวิวจากมุมสูงด้านบนที่เปรียบเสมือนวิวของบ้านบนชั้น 2 ซึ่งก็จะสามารถมองเห็นเขาใหญ่ได้ชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นแบบบ้านที่น่าจะเหมาะที่สุดของที่ดินโซนทะเลสาบนี้ก็คือ แบบบ้าน 2 ชั้นครับ
หรือถ้าใครชอบบ้านชั้นเดียวก็สามารถทำได้นะ เพราะโครงการไม่ได้กำหนดว่าแต่ละแปลงจะต้องปลูกบ้านแบบไหน เพียงแค่ถ้าเป็นบ้าน 2 ชั้น เราคิดว่าน่าจะดึงศักยภาพของที่ดินในเรื่องของวิวออกมาได้ดีที่สุดนั่นเอง
ส่วนอีกด้านหนึ่งก็จะเป็นแปลงที่ดินที่เชื่อมต่อไปยังโซน The Waterfall / The Creek และพื้นที่ส่วนกลางด้านหลังโครงการครับ จะเป็นอย่างไรบ้างเราไปชมกันต่อเลย
2. The Waterfall Zone (แปลงที่ดินโซนน้ำตก)
สำหรับโซนนี้จะตั้งอยู่ในบริเวณโซนที่ดินที่มีความสูงลดหลั่นลงมา จึงทำให้เราได้สัมผัสและใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแนวต้นไม้ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นแนวป่าในระยะใกล้ และในขณะเดียวกันก็ทำให้ตัวบ้านมีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งแบบบ้านที่เหมาะกับที่ดินโซนนี้ก็สามารถเป็นได้ทั้งบ้านชั้นเดียวและบ้าน 2 ชั้นเลยครับ
Highlight ของบ้านโซนนี้จะเป็นบริเวณริมน้ำที่อยู่ด้านหลังบ้านครับ ตามชื่อเลยก็คือ Waterfall เป็นโซนที่ธารน้ำจะไหลเป็นขั้นบันไดแบบน้ำตก (ในภาพน้ำยังไม่ปล่อยไหล เนื่องจากหน้างานปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จดีครับ)
โดยเราอยากให้ทุกคนลองนึกภาพตามแบบนี้ว่า บริเวณหลังบ้านจะเป็นจุดที่มีน้ำตกไหลผ่าน ที่นอกจากเราจะมองเห็นสายน้ำและสวนฝั่งตรงข้ามสวยๆด้วยตาแล้ว เรายังจะได้ยินเสียงของน้ำอีกด้วยครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ค่อนข้างพิเศษคนละแบบกับโซนทะเลสาบก่อนหน้านี้ที่จะเน้นการมองด้วยตาเป็นหลัก
หากใครสนใจก็ลองเข้าไปเดินดูแปลงของจริงกันได้นะครับ ไม่แน่ว่าวันที่ทุกคนเข้าไปเขาน่าจะทำน้ำตกเสร็จแล้ว บรรยากาศจะเป็นอย่างไรบ้างก็กลับมาบอกกันได้น้า
ก่อนจะเข้าถึงแปลงที่ดินบ้านโซนสุดท้าย จะมีสวนส่วนกลางมาคั่นกลางอยู่เรียกว่า Edible Garden ซึ่งจะปลูกไม้ผลและพืชผักสมุนไพรต่างๆที่สามารถรับประทานได้ เช่น ชมพู่, ขนุน, มะม่วง, ส้มโอ เป็นต้น
โดยนอกจากจะเป็นสวนที่ลูกบ้านสามารถมาเดินเล่น และเก็บผลผลิตต่างๆไปรับประทานกันได้แล้ว อีกหนึ่งความตั้งใจของโครงการก็คือ อยากให้คนที่มาได้สัมผัสและเห็นต้นของจริงว่าเป็นอย่างไร
โดยเฉพาะเด็กๆหรือคนในกรุงเทพอย่างเราๆ ที่มักจะไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นครับ เพราะอย่างที่บอกว่าเดิมทีเจ้าของเขาทำเกษตรกรรมมาก่อน ก็เลยอยากส่งต่อประสบการณ์และความทรงจำสมัยรุ่นคุณตาคุณยายให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสนั่นเองครับ
และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็น Highlight ของบ้านโซนสุดท้ายก็คือ ‘อุโมงค์ต้นไม้’ ซึ่งจะเป็นอุโมงค์ต้นจามจุรีขนาดใหญ่ โดยวันที่เราเข้ามานี้เขาเพิ่งจะเอาต้นลงดินกันใหม่ๆเลย แต่ถ้าอีกสัก 4 – 5 ปีข้างหน้า คิดว่าถ้าต้นไม้ทั้ง 2 ฝั่งเติบโตและแผ่กิ่งก้านเต็มที่แล้ว ก็น่าจะเป็นถนนเส้นที่สวยงามและร่มรื่นที่สุดในโครงการอย่างแน่นอนครับ
3. The Creek Zone (แปลงที่ดินโซนลำธาร)
ที่ดินโซนนี้จะคล้ายกับโซนน้ำตกก่อนหน้านี้ครับ แต่จะมีความพิเศษเพิ่มขึ้นตรงที่ น้ำบริเวณนี้จะมีความตื้นอยู่ที่ประมาณ 20 – 30 cm. ซึ่งเราสามารถเดินลงไปเอาเท้าสัมผัสกับผิวน้ำ หรือจะเอาโต๊ะเก้าอี้มานั่งเล่นแช่น้ำเหมือนตามคาเฟ่ก็ได้ เรียกได้ว่าเป็นโซนที่มีความชิลและได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุดเลย
ทีนี้ทุกคนน่าจะพอเห็นภาพรวมแล้วใช่มั้ยครับว่า แปลงที่ดินในแต่ละโซนมีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ซึ่งเราจะขอสรุปสั้นๆอีกทีให้ดังนี้
- The Lake Zone (แปลงที่ดินโซนทะเลสาบ) : ได้วิวทะเลสาบกว้างๆ และวิวภูเขาสวยๆ เหมาะกับคนที่ชอบชมวิวด้วยการมองเห็น และค่อนข้างเหมาะกับบ้าน 2 ชั้นมากๆ
- The Waterfall Zone (แปลงที่ดินโซนน้ำตก) : นอกจากการมองเห็นธารน้ำและสวนสีเขียวด้วยตาแล้ว เราจะได้ยินเสียงของสายน้ำที่ไหลผ่านหลังบ้านด้วยเพลินๆ จึงเหมาะกับบ้าน 1 – 2 ชั้นก็ได้
- The Creek Zone (แปลงที่ดินโซนลำธาร) : นอกจากการมองเห็นและได้ยินเสียงแล้ว โซนนี้เราสามารถลงไปสัมผัสกับน้ำได้โดยตรงเลย เหมาะกับคนที่ต้องการความใกล้ชิดธรรมชาติมากๆ
สำหรับส่วนกลางที่อยู่ด้านท้ายสุดของโครงการ จะมีอยู่ 2 ส่วนหลักๆด้วยกัน เริ่มจากส่วนแรกจะเป็นทะเลสาบที่ 2 ที่มีขนาดเล็กกว่า และรอบๆจะมีการปลูกต้นไม้เอาไว้ด้วย อารมณ์เหมือนอ่างแก้วที่มหาลัยเชียงใหม่เลยครับ ซึ่งเราสามารถมาเดิน/นั่งเล่นริมน้ำชิลๆได้เลย
โดยจริงๆแล้วทะเลสาบนี้จะทำหน้าที่เป็นจุดรับน้ำ ที่ไหลลงมาตามธารน้ำและเนินของที่ดินโครงการ ก่อนที่จะใช้เครื่องปั๊มน้ำสูบกลับขึ้นไปยังทะเลสาบต้นน้ำอีกครั้ง เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนภายในโครงการนั่นเองครับ
ถัดจากทะเลสาบจะมีทางเดินเล็กๆ ที่เป็นอุโมงค์ต้นสนแบบนี้ ให้เราสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังสวนสุดท้ายของโครงการที่อยู่บริเวณริมน้ำลำตะคอง และให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังจะเดินเข้าไปสู่ป่าลึกจริงๆเลยครับ
นอกจากนี้บริเวณทางเท้ายังมีการใช้วัสดุที่มาจากระแนงปลูกต้นกล้วยไม้เก่า ที่เป็นธุรกิจดั้งเดิมของที่ดินผืนนี้มาประยุกต์ใช้ด้วย เพื่อให้ยังคงมีกลิ่นอายและความทรงจำเก่าๆของสถานที่แห่งนี้ให้เราได้เห็นกันนั่นเอง
เมื่อผ่านอุโมงค์ต้นไม้ออกมาเราก็จะเจอกับ Lam Takhong Garden ซึ่งเป็นสวนป่าขนาดประมาณ 1 ไร่ โดยต้นไม้ใหญ่หรือต้นไผ่ต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นต้นไม้ดั้งเดิมที่มีอยู่ในธรรมชาติ ที่โครงการยังคงอนุรักษ์เอาไว้อยู่เหมือนเดิมครับ
โดยทางโครงการจะมีการปรับพื้นที่ให้ดูเรียบร้อยมากขึ้น เพื่อให้เราสามารถมานั่งเล่นชมวิวใต้ร่มไม้ชิลๆได้อย่างปลอดภัย ซึ่งตามจุดต่างๆก็จะมีโต๊ะเก้าอี้เตรียมไว้ให้แบบนี้เลยครับ
และวิวที่เราจะได้ชมก็คือ ‘วิวลำน้ำลำตะคอง’ ซึ่งเป็นธารน้ำสาธารณะสายสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ถือว่าหาได้ยากมากๆครับที่จะมีโครงการจัดสรรอยู่ติดกับลำน้ำธรรมชาติแบบนี้
นอกจากนี้เรายังสามารถเดินเข้าไปตามทางได้จนถึงธารน้ำด้านล่างเลยครับ ซึ่งโครงการก็จะทำทางเดินไว้ให้เดินสะดวกและเรียบร้อยแบบนี้เลย
ระหว่างทางก็จะมีจุดนั่งเล่นอีกจุดหนึ่งให้มานั่งเล่นใต้ร่มไม้ได้เหมือนกัน
ทางเดินเชื่อมต่อลงมาตามทางลาดจนมาถึงริมน้ำที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งโครงการก็จัด Landscape ให้มีความเรียบร้อยสวยงาม สามารถมาเดินเล่น/Picnic/ตั้งแคมป์กันได้ ให้อารมณ์เหมือนเราได้มาเที่ยวตามป่าเขาหรืออุทยานเลยครับ แต่นี่คือเหมือนเป็นสวนหลังบ้านของเราเลยนั่นเอง
ลำตะคองเป็นธารน้ำที่มีความใสสะอาดมากๆ มีน้ำตลอดทั้งปี และสามารถลงเล่นได้นะครับ โดยทางโครงการจะจัดให้มีอุปกรณ์เซฟตี้ต่างๆ รวมถึงจะมีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลลูกบ้านที่จะลงเล่นเพื่อความปลอดภัยด้วยครับ
น้ำใสมากจนมองเห็นสาหร่ายหรือพืชน้ำต่างๆที่อยู่ใต้น้ำได้ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าน้ำนี้มีความสะอาดและมีระบบนิเวศน์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ตามธรรมชาติ นับว่าเป็นโครงการจัดสรรที่มีความพิเศษเฉพาะตัวมากๆครับ ใครสนใจอยากไปเห็นของจริงก็สามารถเข้าไปชมกันได้เลย
เป็นอย่างไรบ้างครับกับโครงการ DALTON ที่ผมได้พามาชมวันนี้ คือไม่รู้ว่าใครจะรู้สึกเหมือนเรามั้ยว่า ตั้งแต่การเดินทางขับรถมาจากกรุงเทพ > เจอปากซอยที่มีความอุดมสมบูรณ์และเป็นชุมชน > เข้ามาภายในซอยที่มีความเงียบสงบ > จนมาถึงในโครงการที่มีทะเลสาบขนาดใหญ่สวยๆ > เจอน้ำตกและลำธาร > มาจนถึงสวนป่า Hidden Garden ที่เชื่อมต่อกับลำน้ำตะคองที่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ
ทั้งหมดนี้คือ เหมือนเราได้เดินทางผจญภัย ค่อยๆหลีกหนีออกจากความวุ่นวาย แล้วได้มาเจอกับความเป็นธรรมชาติที่เงียบสงบ สวยงาม เหมาะกับการพักผ่อน ซึ่งระหว่างทางก็มีเรื่องราวและมอบประสบการณ์ที่แตกต่างกันให้กับเราตลอดทาง ใครอยากสัมผัสความรู้สึกแบบนี้แนะนำให้ลองเข้าไปชมโครงการของจริงดูได้นะครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- พื้นที่สวนส่วนกลาง 3 จุด ประกอบด้วย
- Main Garden สวนโซนทะเลสาบขนาด 3.5 ไร่
- Edible Garden สวนกินได้ ซึ่งจะปลูกไม้ผลและพืชผักสมุนไพรที่สามารถรับประทานได้ ขนาด 1 ไร่
- Lam Takhong Garden สวนป่าริมน้ำลำตะคองขนาด 1 ไร่
- Lake ทะเลสาบใหญ่ขนาด 8.5 ไร่ ยาวกว่า 240 เมตร
- Sunken Bridge สะพาน/ทางเดินลงไปในทะเลสาบ
- Infinity Walkway ทางเดินภายในสวน
- Juristic สำนักงานนิติบุคคล
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วตาข่ายแรงดึงประกบด้วยต้นไม้รอบโครงการสูง 2 ม.
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ ประตูเหล็กเลื่อนไฟฟ้า เปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบ Easy Pass Access
- ไฟ 3 เฟส เดินสายไฟเข้าสู่ตัวบ้านด้วยการร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ
- ระบบผลิตและส่งน้ำประปาจากน้ำที่ไม่ใช่บาดาล
แบบบ้าน
..ในส่วนของบ้านพักอาศัยโครงการ DALTON อย่างที่เราเกริ่นเอาไว้แต่แรกครับว่าที่นี่เป็นโครงการขายที่ดินจัดสรร ซึ่งเราสามารถออกแบบและสร้างบ้านเองได้ หรือจะใช้เป็นแบบบ้านมาตรฐานที่ทางโครงการออกแบบไว้ก็ได้เหมือนกัน
รวมถึงเรายังสามารถใช้ช่างของเราเอง หรือจะใช้ช่างของทางโครงการก็ได้หมดเลยครับ โดยการสร้างบ้านก็จะมีเงื่อนไขและข้อกำหนดต่างๆในสัญญาด้วย รายละเอียดสามารถสอบถามเพิ่มเติมกับทางโครงการได้เลย ส่วนแบบบ้านมาตรฐานจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบดังนี้
ข้อกำหนดเบื้องต้น กรณีออกแบบบ้านด้วยตัวเอง :
- ความสูงของบ้านไม่เกิน 12 m.
- ขนาดพื้นที่ใช้สอยทำได้สูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด
- คุมโทนสีและกลุ่มวัสดุของบ้านเหมือนกันทั้งโครงการ
- คุมสไตล์บ้านเป็น English and European Modern Cottage แต่ก็สามารถผสมผสานสไตล์อื่นๆในแบบที่ต้องการได้นิดหน่อย (สามารถปรึกษาและยื่นแบบบ้านกับทางโครงการได้)
- รั้วรอบบ้านให้เป็นรั้วต้นไม้ สูงไม่เกิน 60 cm.
- ต้องสร้างบ้านภายใน 2 ปี (นับจากวันที่ซื้อ) หรือ จ่ายค่าตัดแต่งสนามหญ้าในแปลงเพื่อเป็นสภาพแวดล้อมที่สวยงามให้ส่วนรวม
ปัจจุบันที่โครงการยังไม่ได้มีบ้านตัวอย่างให้ดูนะครับ แต่เราสามารถดูสำนักงานขายเป็นตัวอย่างเบื้องต้นได้ เพราะเค้าได้ออกแบบมาให้ใช้วัสดุที่มีความใกล้เคียงของจริงที่กำหนดไว้แล้ว จะเป็นอย่างไรบ้างไปชมกันเลย
สเปควัสดุหลักภายในบ้านมาตรฐานเบื้องต้น :
- โครงสร้างบ้าน : ก่ออิฐมวลเบา
- ผนังภายนอกบ้าน : กรุด้วยหินธรรมชาติบางส่วน
- หลังคา : Shingle หรือ Bluescope Metal Sheet หรือ วัสดุอื่นตามโทนที่โครงการกำหนด
บรรยากาศภายในบ้านเน้นความกว้างขวางโปร่งโล่งเป็นหลัก อีกทั้งยังมีการดีไซน์ฝ้าเพดานให้มีความสูงตามลักษณะจั่วหลังคา เพื่อให้มีความโปร่งมากยิ่งขึ้น และได้อารมณ์เหมือนบ้านพักตากอากาศเมืองนอกเลยครับ
สำหรับมุมนั่งเล่นพักผ่อนก็จะเหมาะกับบริเวณริมหน้าต่างแบบนี้ครับ ซึ่งเวลาที่ใครไปติดต่อที่สำนักงานขายก็ลองนั่งสัมผัสกับบรรยากาศของจริงดูได้เลย
จุดเด่นของบ้านจะเป็นหน้าต่างแบบเข้ามุม Bay Window ที่ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งเหมาะกับบ้านพักตากอากาศแบบนี้ ที่ต้องการเปิดรับวิวและสัมผัสกับธรรมชาติภายนอกให้มากที่สุดนั่นเอง
แบบบ้านมาตรฐานทั้ง 3 จากโครงการ :
- Ashford บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย n/a ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 2 / ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
เรามีทำดราฟตัวอย่างแปลนบ้านมาตรฐานหลังนี้มาให้ดูด้วยนะครับ จะเห็นได้ว่าเค้าจะออกแบบให้ฟังก์ชันสำคัญๆของบ้านอย่าง ห้องนอน และห้องนั่งเล่น ให้หันหน้าออกไปรับวิวทะเลสาบ/แม่น้ำที่อยู่ด้านหลังบ้าน
ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวสวยๆได้ตลอดเวลา หรือจะเดินออกมารับลม/ทำกิจกรรมกลางแจ้งนอกบ้านก็ได้ รวมถึงยังทำให้มีความเป็นส่วนตัวจากเพื่อนบ้าน ที่อาจขับรถผ่านไป-มาหน้าบ้านด้วยนะครับ
และถ้าใครเลือกปลูกบ้านในแปลงที่ดินใหญ่เป็นพิเศษ ก็จะมีเนื้อที่รอบบ้านกว้างมากๆ ซึ่งเราสามารถปลูกต้นไม้จัดสวน หรือจะทำสระว่ายน้ำ + เรือนรับรองเพิ่มได้สบายๆ ส่วนนี้ก็แล้วแต่ความชอบและความต้องการของแต่ละคนเลยครับ
- Brayford บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 430 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถในร่ม / 1 ห้องแม่บ้าน
- Kensford บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย n/a ตร.ม.
– ฟังก์ชัน n/a
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า
ราคา
DALTON (ดรธาร) ราคา ณ วันที่ 14 มีนาคม 2568
- The Lake Zone (แปลงที่ดินโซนทะเลสาบ) ที่ดินเริ่มต้น 409 ตร.วา ราคา 45,000 บาท/ตร.วา
– ราคาแปลงมาตรฐานเริ่มต้นประมาณ 18.4 ล้านบาท - The Waterfall Zone (แปลงที่ดินโซนน้ำตก) ที่ดินเริ่มต้น 411 ตร.วา ราคา 35,000 บาท/ตร.วา
– ราคาแปลงมาตรฐานเริ่มต้นประมาณ 14.4 ล้านบาท - The Creek Zone (แปลงที่ดินโซนลำธาร) ที่ดินเริ่มต้น 324 ตร.วา ราคา 35,000 บาท/ตร.วา
– ราคาแปลงมาตรฐานเริ่มต้นประมาณ 11.3 ล้านบาท - ค่าจอง 500,000 บาท
- ค่าทำสัญญา 30% ของราคาซื้อ-ขาย
- ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการ DALTON ตั้งอยู่ในโซนขนงพระใกล้กับเขาใหญ่ ซึ่งเป็นโซนที่เงียบสงบไม่วุ่นวายเหมือนโซนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว อีกทั้งหากเราสังเกตดีๆจะเห็นว่า โครงการจัดสรรใหญ่ๆระดับ Luxury ก็มักจะมาทำโครงการอยู่ตรงบริเวณย่านนี้กันทั้งนั้นเลยครับ เพราะทำเลนี้ยังคงมีเสน่ห์ของความเป็นเขาใหญ่แบบดั้งเดิม และยังสามารถมองเห็นวิวเขาใหญ่ได้สวยงามอีกด้วย จึงเป็นหนึ่งในทำเลที่เหมาะจะปลูกบ้านพักตากอากาศสำหรับมาเที่ยวพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์มากๆ
การเดินทางเราสามารถลงมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ปากช่อง แล้วเลี้ยวเข้าสู่ซอยโครงการได้เลย โดยตรงถนนใหญ่และปากซอยเรายังคงเห็นความอุดมสมบูรณ์ทั้งห้างสรรพสินค้า เซเว่น และความเป็นชุมชนอยู่ครบถ้วน แต่พอเข้ามาภายในลึกๆเราก็จะยิ่งได้พบกับความเงียบสงบและความเป็นธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ภายใน ถึงแม้จะลึกอยู่สักหน่อยแต่ก็ไม่ได้เปลี่ยวจนเกินไปครับ เพราะจะมีโรงแรมรีสอร์ตเพื่อนบ้านอยู่เป็นระยะๆ และถ้าใครต้องการใช้ Application ในการสั่งอาหาร ที่นี่ก็ยังสั่งของมาส่งถึงได้สบายๆ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ที่นี่เป็นโครงการจัดสรรที่มีรั้วรอบขอบชิดครับ รวมถึงยังมี รปภ. ที่คอยเดินตรวจตลอดเวลา และกล้อง CCTV เหมือนกับโครงการจัดสรรทั่วไปเลย ส่วนบริเวณด้านหน้าจะมีซุ้มประตูที่เป็นจุดคัดกรองคนที่จะเข้า-ออกโครงการ ลูกบ้านจะใช้เป็นสัญญาณ Bluetooth ที่เปิดแบบอัตโนมัติได้สะดวก แต่ถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรก่อนตามปกติ ส่วนภายในบ้านแล้วแต่ลูกบ้านแต่ละคนที่จะทำเพิ่มเติมเองเลยครับ
การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการขายที่ดินจัดสรรที่ให้เราสามารถซื้อมาเพื่อปลูกบ้านได้ด้วยตัวเอง ซึ่งบอกเลยว่ามีความกล้าในการจัดผังโครงการมากๆครับ เพราะเขาได้นำพื้นที่มากกว่าสิบไร่มาทำเป็นทะเลสาบ สวนส่วนกลาง และตัดถนนเข้าสู่บ้านได้ทุกหลัง หมายความว่าเขาให้ความสำคัญกับบรรยากาศ และคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกบ้าน มากกว่าที่จะนำไปทำเป็นพื้นที่ขายเอากำไรนั่นเอง
จุดเด่นของผังโครงการคือ ที่ดินทุกแปลงจะอยู่ติดกับทะเลสาบและธารน้ำทั้งหมด ซึ่งทำให้เกิดเป็นบ้าน 3 โซน 3 สไตล์ จึงมีเสน่ห์เฉพาะตัว และเหมาะกับคนที่มีความชอบแตกต่างกันชัดเจน ได้แก่ โซนทะเลสาบเหมาะกับคนเน้นวิวสวยๆ มองเห็นทะเลสาบและเขาใหญ่ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา / โซนน้ำตกเหมาะกับคนที่ต้องการมองเห็นและได้ยินเสียงของสายน้ำไหล / โซนลำธารเหมาะกับคนที่ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด และสามารถลงไปสัมผัส/แช่น้ำเล่นได้เลย ซึ่งเราแนะนำให้เข้าไปชมของจริงด้วยตัวเองครับ เพราะที่ดินแต่ละแปลงจะมีวิวและมุมองศาที่แตกต่างไม่เหมือนกันเลย
ส่วนตัวบ้านนั้นจะมีความ Flexible มากๆ ซึ่งเราสามารถออกแบบฟังก์ชัน และปลูกสร้างบ้านในแบบที่ต้องการได้ด้วยตัวเอง หรือถ้าใครอยากจะใช้เป็นแบบบ้านมาตรฐาน ทางโครงการก็มีให้เลือกอยู่หลายแบบเลยครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและ Lifestyle ความต้องการที่ไม่เหมือนกันของแต่ละครอบครัว รวมถึงเรายังสามารถออกแบบให้ตัวบ้านมีฟังก์ชันที่เหมาะสมกับแปลงที่ดินนั้นๆ ที่มีความ Unique ไม่เหมือนกันในแต่ละแปลงได้อีกด้วย
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : เรียกได้ว่าเป็น Highlight หลักของโครงการเลยก็ว่าได้ครับ อย่างที่ทราบแล้วว่าภายในโครงการมีทั้งทะเลสาบขนาดใหญ่ และสวนสีเขียวอีก 3 จุด รวมแล้วเป็นพื้นที่มากกว่า 10 ไร่ ถือว่าให้มาเยอะมากๆ แถมยังช่วยสร้างบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามภายในโครงการ ทำให้เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากโครงการอื่นๆ อีกทั้งเค้ายังใส่ใจพันธุ์ไม้ที่จะนำมาลงด้วยครับ ซึ่งจะเน้นเป็นพืชท้องถิ่นที่สามารถเติบโตได้ดี รวมถึงยังมีไม้ดอกที่มีสีสันสวยงาม และพืชผลต่างๆให้สามารถมาเห็นของจริง หรือเก็บไปรับประทานกันสดๆได้อีกด้วย
สาธารณูปโภค : โครงการนี้จะเน้นเป็นพื้นที่สวนเป็นหลัก ซึ่งเราสามารถมาเดินเล่น ออกกำลังกาย มาชมวิว หรือจะมา Picnic ท่ามกลางธรรมชาติของจริงได้ครับ แต่ถ้าเป็นฟังก์ชันฟิตเนสหรือสระว่ายน้ำจะไม่ได้มีให้นะ เนื่องจากพื้นที่ของบ้านแต่ละแปลงสามารถทำฟังก์ชันเป็นของส่วนตัวกันได้สบายๆ ดังนั้นค่าส่วนกลางที่เราจ่ายทั้งหมดก็จะใช้ไปกับเรื่องการดูแลสวน และเจ้าหน้าที่ประจำโครงการเป็นหลักนั่นเอง
Judgement
สำหรับโครงการ DALTON (ดรธาร) เราจะไม่มีการให้คะแนนนะครับ เนื่องจากโครงการประเภทตากอากาศ มีปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อที่แตกต่างจากการอยู่อาศัยทั่วไปที่ต้องมีเรื่องของความคุ้มค่าทางการเงินและความคุ้มค่าทางอารมณ์ผนวกกัน เป็นการซื้อเพื่อพักผ่อนหย่อนใจมากกว่า ทำให้บรรทัดฐานการให้คะแนนแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลทั้งผู้อ่านและผู้รีวิว
DALTON (ดรธาร) เหมาะกับใคร
โครงการ DALTON (ดรธาร) เหมาะกับคนที่กำลังมองหาที่ดินจัดสรรสำหรับปลูกบ้านพักตากอากาศที่เขาใหญ่ โดยเป็นแปลงที่ดินผืนใหญ่อยู่ติดริมทะเลสาบ/น้ำตก/ลำธาร รวมถึงสามารถมองเห็นวิวเขาใหญ่ในระยะที่กำลังสวยงามได้อีกด้วยครับ ซึ่งเราสามารถออกแบบและก่อสร้างบ้านในแบบที่ต้องการเองได้ หรือจะใช้แบบบ้านของโครงการเลยก็มีเตรียมไว้ให้พร้อม
ส่วนจุดเด่นอีกอย่างที่ไม่เหมือนใครเลยก็คือพื้นที่ส่วนกลาง โดยจะเน้นเป็นสวนและทะเลสาบขนาดใหญ่ อีกทั้งบริเวณท้ายโครงการยังมีที่ดินอยู่ติดลำน้ำลำตะคองด้วย เรียกได้ว่าหาที่ดินจัดสรรแบบนี้ในย่านได้ยากมากๆ สำหรับคนที่สนใจจะต้องมีงบประมาณในการซื้อที่ดินเริ่มต้น 11.3 – 18.4 ล้านบาทขึ้นไป รวมถึงต้องเตรียมเงินสำหรับสร้างบ้านเพิ่มด้วยนะครับ
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่